วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

HAYABUSA

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด

เห็นบางคนไม่ค่อยเชื่อว่ารถซุปเปอร์ไบค์มันมี ความเร็วขนาดนี้จริงๆ ผมเลยขอนำเสนอ SUZUKI HAYABUSA 1300 cc. เจ้าเหยี่ยวทะเลทราย ที่มีความเร็ว 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขึ้นชื่อว่าเป็นรถจักรยานยนต์ standard (คือ รถที่ทำขายตามท้องตลาดทั่วโลก) ที่เร็วที่สุดในโลก

ย้อนอดีตกันสักหน่อย เพื่อปูพื้นตำนานความยิ่งใหญ่ของ “ฮายาบูสะ”
จากเดิม ที่รถคลาสใหญ่ยักษ์ของค่ายญี่ปุ่น ซึ่งมีการต่อสู้ในเรื่องความเป็นที่สุดกันมาก่อนหน้าปี 1998 ในช่วงก่อนหน้านั้น ก็มี Kawasaki ZZR1100 ที่เป็นโปรดัคชั่นไบค์ที่ครองสถิติเร็วที่สุดในโลก จนโดนค่ายปีกนก เข็น CBR1100XX นกยักษ์ลงมาทุบสถิติในช่วงปี 1998 และในช่วงปลายปี 1998นั่นเอง ที่ค่ายซูซูกิ ได้สร้างเซอร์ไพรส์ ช๊อคนักเลงรถทั่วโลกด้วย เจ้าเหยี่ยวทะเล GSX1300R Hayabusa ออกมาทุบทุกค่ายด้วยสถิติใหม่ ใหญ่กว่าทั้งซีซี แรงม้า รวมไปถึงท๊อปสปีดบนรถถนนแบบสแตนดาร์ด
ฮายาบูสะ นั้น เริ่มสายการผลิต และจำหน่ายเป็นโมเดลแรก ในปี 1999 นับจนถึงปัจจุบันนี้ก็เกือบจะสิบปีได้ ซึ่งเหตุผลของการผลิต ฮายาบูสะ นั้น ก็เพื่อจะช่วงชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ “เจ้าแห่งความเร็ว” ของรถโปรดักชั่นไบค์ ที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่ง ในคลาสนี้ เรียกได้ว่า ถ้าเป็นมวยก็คือรุ่นเฮพวี่เวท ที่ทุกคนจับตามองว่าใครนะ ที่จะมาครองบังลังก์ เจ้าแห่งความเร็ว นั้น
ดังนั้น...ทุกค่ายทุกผู้ผลิต, จะระดมคัดสรรมันสมองระดับกะทิหัวๆ เพื่อมาสุมหัวกันทั้งออกแบบ, ถกเถียง, และช่วยกันผลิต รถที่จะกลายมาเป็นตำนานในหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของโลกบิ๊กไบค์ การผลิตรถเพื่อบรรจุอยู่ในกลุ่ม ซุปเปอร์สปอร์ต นี้ เป็นทั้งในเชิงธุรกิจ และ ที่สำคัญกว่านั้นคือ เป็นการประกาศความล้ำเลิศในทางเทคโนโลยี ของค่ายรถนั้นๆ จึงไม่ต้องแปลกใจว่า..ทำไมรถในคลาสนี้จึงค่อนข้างที่จะมีการปรับเปลี่ยนราย ละเอียดต่างๆ น้อย หลังจากที่ได้ออกโมเดลแรกมา นั่นก็เพราะเนื่องจากว่า..ทุกอย่างที่ถือว่าเป็นที่สุด ได้ถูกบรรจุลงไปในรถหนึ่งคันแล้วตั้งแต่เริ่มต้น....ตามคติที่ว่า....เสีย เงินตูไม่ว่า..แต่เสียหน้าข้าไม่ยอม....
ต้องยอมรับว่า ในช่วงเกือบสิบปีที่ผ่านมานี้, ไม่มีใครมาสั่นคลอนบังลังก์ของ เดอะคิง ฮายาบูสะ ไปได้ ฮายาบูสะครองความยิ่งใหญ่ในตำแหน่งเจ้าแห่งความเร็วสูงสุดมาเป็นระยะเวลาอัน ยาวนาน จนมาเมื่อช่วงสั้นๆ ที่ผ่านมานี้เอง ที่มียักษ์ใหญ่หน้าปลาดุก 1400 cc. จากค่ายคาวาซากิ ที่มาท้าชิง บังลังก์แห่งเกียรติยศ นี้ แต่ก็มาเขย่าเก้าอี้ได้แต่เพียงประเดี๋ยวประด๋าว เพราะไม่ทันชั่วเคี้ยวหมากแหลก ซูซูกิ ก็ตอบโต้อย่างทันควันด้วยการเปิดตัว เดอะนิว “ฮายาบูสะ 2008” ที่หลายๆ คนรอคอย

มาเข้าเรื่องกันเลยครับ...
ฮายาบูสะ โฉมใหม่ ปี 2008 นี้ ได้ถูกปรับเปลี่ยนรายละเอียดค่อนข้างเยอะพอสมควร นับกันตั้งแต่หน้าตาภายนอกไปจนถึงรายละเอียดภายใน แต่ต้องขอบคุณทางทีมงานวิศวกรผู้ออกแบบ “ฮายาบูสะ” ใหม่นี้ ให้คงความเป็นฮายาบูสะไว้ คือยังมีความเกี่ยวเนื่องของรูปลักษณ์กับโมเดลก่อนหน้านี้ ซึ่งเสน่ห์ของรถคลาสนี้ก็คือ การมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เปลี่ยนรูปโฉมให้หวือหวาตามสมัยนิยม เหมือนกับรถคลาส 1000 ซีซี แต่การปรับลุคก็ทำออกมาได้ดี (ส่วนจะโดนใจใคร หรือไม่อย่างไรนั้น เป็นเรื่องส่วนบุคคล)
มาเริ่มกันที่ภายนอกก่อน....ไฟหน้ายังคงเอกลักษณ์ความเป็น “ฮายาบูสะ” ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ได้เพิ่มมุมแหลมมุมโค้งเพื่อให้ดูโฉบเฉี่ยวขึ้น รวมไปถึงไฟเลี้ยวที่อยู่ข้างแรมแอร์ ที่ถูกปาดให้ทันสมัยขึ้น มีส่วนโค้งเว้าที่เพิ่มขึ้น
ระบบเบรคหน้า..ถูกเปลี่ยนให้เป็นเรเดียลเบรค ถัดมาในส่วนตัวถังและแฟริ่ง แฟริ่งเป็นแบบสมัยใหม่คือมีหลายชิ้นประกอบกัน ถังน้ำมันมีการเพิ่มมุมและขอบมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมที่จะออกโค้งๆ มนๆ ซึ่งก็จะรวมไปถึงตูดมดด้านท้ายที่จะเพิ่มมุมและขอบมากขึ้นเช่นกัน
ที่เปลี่ยนไปค่อนข้างมากคือ บั้นท้าย ที่ไฟเลี้ยวถูกออกแบบใหม่ให้อยู่ในฝาครอบเรียบร้อย และไฟท้ายที่ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น และ ที่ลืมไม่ได้คือ ท่อไอเสียที่กลายมาเป็นทรงสามเหลี่ยมมนๆ สีดำดุๆ เป็นที่โดนใจใครต่อใคร
ทีนี้มาดูรายละเอียดทางเทคนิคกันบ้างดีกว่า....
สรุปโดยรวมของความเปลี่ยนแปลงของ “ฮายาบูสะ” คือ..รูปโฉมที่ปรับเปลี่ยนใหม่ให้ทันสมัยขึ้น มีการปรับขนาดเครื่องยนต์และปรับปรุงในรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งโครงสร้างตัวถังก็ถูกปรับปรุง
การออกแบบแฟริ่งและตัวถังโดยรวม ยังคงแนวคอนเซปท์ตั้งแต่การเริ่มสร้าง ฮายาบูสะ ตั้งแต่เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว คือ ออกแบบให้รับกับหลักการอากาศพลศาสตร์ให้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายการค้า ของ ฮายาบูสะ มาแต่ไหนแต่ไร ไม่ต้องพูดถึงความหล่อเหลาที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะในรุ่นปี 2008 นี้ แฟริ่งถูกออกแบบให้เป็นแบบสองชิ้นประกบ ทำให้ดูดีทั้งความหล่อในการเล่นสีทูโทนและในแงการถอดเปลี่ยนอะไหล่ยามเสีย หาย
เครื่องยนต์ก็ถือว่าเป็นอีกส่วนที่ได้นำเทคโนโลยี่ใหม่ล่าสุดมาบรรจุไว้ นั่นคือ ระบบการทำงาน 3 แบบ ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ว่าต้องการการทำงานของเครื่องยนต์ในแบบใด

เครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ขนาดใหม่ ปริมาตรความจุ 1340 ซีซี,( โมเดลแรก 1299 ซีซี) โดยยังเป็นระบบ ดับเบิ้ล โอเวอร์เฮดแคมชาพท์ DOHC เช่นเดิม โดยมีวาล์วทั้งไอดีไอเสีย 16 วาล์ว มีการออกแบบห้องเผาไหม้ใหม่เพื่อให้สามารถผลิตได้ทั้งกำลังที่เพิ่มขึ้นและ การทำงานของเครื่องยนต์ที่เรียบขึ้นในเวลาเดียวกัน ซึ่งผลิตม้าขึ้นมาได้ถึง 198 แรงม้า (ว้าว.....แต่ยังไม่ผ่านการยืนยันอย่างเป็นทางการนะครับ.)
- ระบบหัวฉีดน้ำมันถูกพัฒนาขึ้น โดยใช้ระบบหัวฉีดคู่ต่อหนึ่งลูกสูบ
- ระบบใหม่ล่าสุด “S-DMS” (Suzuki Drive Mode Selector) หรือระบบที่ให้ผู้ขับขี่เลือกได้จากทั้งหมด 3 แบบของการทำงานเครื่องยนต์ ขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่ขณะนั้นหรือความต้องการเฉพาะในเวลานั้น
- ออกแบบวาล์วไอดี-ไอเสีย ให้มีน้ำหนักเบาขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งแน่นอน ก็ต้องเลือกใช้วัสดุที่สุดยอดซึ่งนั่นก็คือ ไทเทเนียม
- ลูกสูบทำจากอลูมินั่มอัลลอยด์ใหม่ ที่มีน้ำหนักเบา โดยมีการปรับเปลี่ยนทั้งรูปทรงและออกแบบให้รับกับแรงอัดที่มากขึ้นเพื่อ หน้าที่ในการผลิตกำลังม้าให้มากที่สุดในทุกๆ รอบเครื่องยนต์
- ออกแบบกระบอกสูบใหม่ โดยใช้ชื่อว่า SCEM (Suzuki Composite Electro-Chemical Material) โดยออกแบบให้บางลงและเป็นวัสดุชนิดพิเศษ ซึ่งจะช่วยลดขนาดโครงสร้างของกระบอกสูบและปรับปรุงในเรื่องการกระจายความ ร้อนได้ดีขึ้น และยังปรับปรุงในเรื่องระบบโซ่ราวลิ้นใหม่ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ เงียบขึ้น
- ปรับปรุงระบบการไหลเวียนของอากาศภายในกระบอกสูบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องยนต์มากขึ้น
- ปรับปรุงรังผึ้งหม้อน้ำให้เรื่องของมุมโค้งและระบบพัดลมระบายความร้อนคู่ควบ คุมการทำงานโดยคอมพิวเตอร์ ทำให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น รวมทั้งออยล์คูลเลอร์ที่เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้กระจายความร้อนได้ดี ขึ้น
- ปรับปรุงระบบไอเสียโดยเน้นในเรื่องของการกรองไอเสียเพื่อลดมลภาวะ เป็นหลัก เป็นท่อคู่ทรงสามเหลี่ยม (เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเราเท่าไหร่ เพราะถ้าได้มา คงเปลี่ยนท่อสูตรอยู่ดี)
- ปรับปรุงวัสดุที่ใช้ทำก้านลูกสูบให้มีความทนทานมากขึ้น
- ปรับปรุงวัสดุแหวนลูกสูบซึ่งช่วยให้ลดแรงเสียดทานและการบริโภคน้ำมันเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพิ่มอายุการใช้งาน ของแหวนลูกสูบ
- ระบบเกียร์แบบ 6 สปีด ที่ปรับปรุงการทำงานของระบบคลัทช์เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์สูงไปเกียร์ต่ำนิ่มนวลมากขึ้น

- แฟริ่งถูกออกแบบให้ได้ตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยให้ลดแรงเสียดทานจากอากาศมากที่สุด ซึ่งก็ถือเป็นจุดเด่นในการออกแบบและดีไซน์แฟริ่งของฮายาบูสะมาแต่ไหนแต่ไร และยังออกแบบได้ดูสวยงามแข็งแรงอีกด้วย
- โช็คอัพหน้าแบบหัวกลับ ปรับความแข็งได้ โดยแกนโช็คอัพได้รับการเคลือบวัสดุพิเศษ DLC (Daimond Like Carbon) เพื่อลดแรงเสียดสีและทำให้ซับแรงสะเทือนได้เหมาะกับทุกสภาพการขับขี่
- โช็คอัพหลังแบบปรับความแข็งได้
- โครงสร้างเฟรมตัวถังหลักยังเหมือนเดิม ทำจากอลูมินั่มอัลลอยโดยเน้นให้มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแรงสูงสุด
- สวิงอาร์มทำจากอลูมินั่มอัลลอย โดยออกแบบใหม่ให้มีความแข็งแรงมากขึ้นและช่วยเพิ่ม grip ของยางหลัง รวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังลงที่ล้อหลังดีขึ้น
- เบรคหน้าเปลี่ยนเป็นเรเดียลเบรค โดยที่สามารถใช้งานได้กับจานเบรคขนาดเพียง 310 มม. เพื่อลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็นและเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการขับขี่ให้ดี ขึ้น แต่คาลิปเปอร์เปลี่ยนจาก 6 ลูกสูบ เป็น 4 ลูกสูบ
- เบรคหลังยังคงเป็นระบบเดิมแต่เพิ่มขนาดจานเบรคให้ใหญ่ขึ้นเป็น 260 มม. และเปลี่ยนจาก 2 ลูกสูบ เป็นลูกสูบเดียว
- เบาะคนซ้อนท้ายรวมทั้งโครงสร้างเฟรมในส่วนนั้นถูกลดระดับให้ต่ำลงเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนซ้อนมากขึ้น
- ความสูงของถังน้ำมันถูกลดระดับให้ต่ำลงโดยที่เพิ่มความสูงของชิลด์บังลมหน้า ขึ้นเพื่อเพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ขับขี่ต้องก้มหมอบกับถังน้ำมัน จะทำได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม
- ไฟหน้าดีไซน์แนวตั้งตามเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฮายาบูสะ แต่ปรับปรุงในส่วนความสว่างและการกระจายของแสงให้ดีขึ้น
- ไฟท้ายโฉมใหม่แบบ LED ทำให้เห็นเด่นชัดมากขึ้น

เพิ่มเติมกับระบบ DMS – Suzuki’s Drive Mode Selector
สามขนาดเครื่องยนต์ในหนึ่งเดียว....
ระบบ DMS ใหม่ของซูซูกินี้ หรือ ที่ชื่อเต็มๆ ว่า Suzuki’s Drive Mode Selector นั้น ถือว่าเป็นแนวคอนเซ็ปท์ที่กำลังมาแรงในรถโมเดลใหม่ๆ ในตอนนี้ เพื่อจุดประสงค์ในการประหยัดพลังงานสูงสุด ซูซูกิได้เปิดตัวระบบนี้ใน Gixxer K7 มาแล้ว และ ก็จะเปิดตัวระบบนี้กับ ฮายาบูสะ 2008 ซึ่งก็ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ถูกใส่เพิ่มเข้ามาในรถที่ถือว่าสุดยอดอยู่ แล้ว
สวิทช์ควบคุมการทำงานอยู่ที่แฮนด์ด้านขวาควบคุมได้ง่าย ระบบ DMS นี้สามารถปรับการทำงานได้ 3 แบบ หรือ 3 ระดับของการทำงานของเครื่องยนต์ โดยมีกล่อง ECU ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของวาล์วปีกผีเสื้อ เพื่อควบคุมแรงของเครื่องยนต์วาล์วปีกผีเสื้ออันแรกหรืออันปรกติ จะถูกควบคุมการทำงานโดยการเปิด-ปิดคันเร่งเหมือนระบบปรกติทั่วๆไป แต่สำหรับวาล์วปีกผีเสื้ออันที่สอง จะถูกควบคุมโดยกล่อง ECU ก็คือตามโหมดการทำงานที่เราได้เลือกไว้จากสวิทช์
ให้นึกภาพถึงม้าฝูงยักษ์ทั้งหมด 198 ตัว ที่อัดกันอยู่ในคอกพร้อมที่จะระเบิดแรงวิ่งออกมาข้างนอก โดยที่มีประตูคอกอยู่สองประตู ซึ่งก็เหมือนกับวาล์วปีผีเสื้อทั้งสองอันนั้น เราสามารถกำหนดการเปิดประตูได้โดยการใช้ผู้ดูแลคอกม้า ซึ่งก็คือกล่อง ECU นั่นเอง
โหมดการทำงาน A – คือการเปิดประตูคอกทั้งสองบาน หรือ ก็คือการเปิดวาล์วทั้งสองอันพร้อมกันเต็มที่ ซึ่งเครื่องยนต์ก็จะทำงานอย่างเต็มที่เต็มๆ ม้า
โหมดการทำงาน B – คือการเปิดประตูคอกบานที่ 2 แค่ 75% และ ECU จะเปิดวาล์วช้ากว่าปรกติ แต่ว่าก็ยังสามารถยัดให้ม้าทำงานได้ครบทุกตัว ได้เพียงแค่เปิดคันเร่งเกิน 75% ขึ้นไป ก็สามารถเรียกม้าได้ครบทุกตัว
โหมดการทำงาน C – ระบบจะอนุญาติให้ม้าออกมาทำงานในจำนวนที่จำกัดจำนวนหนึ่งเท่านั้น (แม้ว่าคุณจะเปิดคันเร่งสุดก็ตาม) เพราะ ECU จะควบคุมการเปิด-ปิดของวาล์วแบบช้าๆ และเปิดไม่สุด ทำให้กำลังสูงสุดในโหมดนี้ถูกจำกัดไว้

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เคล็ดลับการออกกำลังกายที่จะช่วยลดความอ้วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับการออกกำลังกายที่จะช่วยลดความอ้วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


บางคนชอบออกกำลังกายอย่างหักโหม 2-3 ชั่วโมง บางคน 3-4 ชั่วโมงนั้น จะทำให้ร่างกายเหนื่อยเกินไป และเป็นการเพิ่มความเครียดให้กับร่างกาย ก็จะมีผลให้อ้วนง่าย ดังนั้นเราควรออกกำลังกายแค่พอเหมาะวันละ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้วค่ะ
เคล็ดลับที่จะช่วยให้เราออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วนอย่างมีประสิทธิภาพได้แก่

1. ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ เพราะถ้าออกกำลังกายมากเกินไป แทนที่ร่างกายจะฟิต กลับต้องสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปแทน ทำให้ลดความอ้วนยากขึ้นอีก

2. ก่อนออกกำลังกาย เราไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างเกิน 4 ชั่วโมง เพราะไม่มีโปรตีนจากอาหาร แต่แทนที่จะเอาไขมันเก่ามาใช้ ร่างกายกลับดึงเอาโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้แทน ร่างกายก็จะลดการเผาผลาญลง ก็จะอ้วนง่ายขึ้น แถมยังไม่กระชับอีกด้วย ดังนั้นควรกินโปรตีนก่อนออกกำลังกาย 10-15 นาทีเสมอ เช่น ไข่ต้ม+ผลไม้ หรือ นมพร่องมันเนย เป็นต้น หรือถ้าหลังอาหารมื้อหลักก็ควรรอสัก 1-2 ชั่วโมง เพราะขณะนั้นร่างกานยกำลังหลั่งโกรฮอร์โมน ซึ่งต้องใช้โปรตีนในการสร้างฮอร์โมนนี้ ซึ่งมันจะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และกระตุ้นให้เอาไขมันสะสมออกมาเผาผลาญขณะออกกำลังกายอีกด้วย

3. ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำผลไม้ ชา กาแฟ น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมปัง ชอกโกแลต ก่อนออกกำลังกายเด็ดขาด เพราะร่างกายจะเผาผลาญเอาแต่แป้งและน้ำตาลออกไปใช้แทน

4. ควรออกกำลังกายช่วงเช้าจนถึงเที่ยงวัน เพราะเป็นการกระตุ้นการเผาผลาญพลงงานให้ทำงานได้ดีตลอดวัน

โรคฮิต เพราะผิดท่า! หมอนรองกระดูก

นอกจากหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ครึกโครมแล้ว ยุคนี้ถ้าพูดถึงโรคร้ายแรงที่หันไปทางไหนก็มักจะได้ยินข่าวคนนั้นป่วย-คน โน้นเสียชีวิต . . . ก็ยังคงเป็นมะเร็ง แต่หากจะว่ากันถึงโรคที่ร้ายแรงน้อยกว่ามะเร็ง ทว่าก็มิใช่เพียงโรคพื้นๆ โรคที่คนไทยยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะคนในเมืองวัยทำงานเป็นกันมาก โรคต่อไปนี้ก็ถือว่าติดกลุ่มอันดับต้นๆ

โรคนี้คือโรคที่เกี่ยวกับ "หมอนรองกระดูก"

บ้างก็ "เสื่อม" บ้างก็ "กดทับเส้นประสาท"

ทั้งนี้ "หมอนรองกระดูก" ก็ถือเป็นอวัยวะที่สำคัญของมนุษย์ มันคือชิ้นส่วนของร่างกายที่ทำหน้าที่ตั้งแต่รองรับน้ำหนัก ไปจนถึงรองรับแรง กระแทก โดยเป็นชิ้นส่วนที่ประกอบด้วยส่วนที่เป็นเปลือกหรือเยื่อหุ้มที่ชั้นนอก และมีส่วนที่เป็นสายหรือเส้นเนื้อเยื่อคล้ายวุ้นอยู่ด้านใน เป็นชิ้นส่วนที่อยู่ ณ ตำแหน่งระหว่างปล้อง "กระดูกสันหลัง"

ร่างกายมนุษย์เรานั้นมีโครงกระดูกเป็นโครงร่างแข็งในการค้ำจุนและการเคลื่อน ไหว โดยร่างกายมนุษย์เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีกระดูก 206 ชิ้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามตำแหน่งที่อยู่ โดยที่ 126 ชิ้นจะเป็น "กระดูกระยาง" กระดูกที่ยื่นจากกระดูกแกนออกไป ได้แก่ กระดูกแขน-ขา กระดูกสะบัก กระดูกไหปลาร้า กระดูกเชิงกราน

อีก 80 ชิ้นจาก 206 ชิ้น จะเป็น "กระดูกแกน" กระดูกที่อยู่บริเวณกลางลำตัว ได้แก่ กะโหลกศีรษะ กระดูกก้นกบ กระดูกซี่โครง และรวมถึงกระดูกสันหลัง ซึ่งว่ากันเฉพาะในส่วนของกระดูกสันหลัง หนึ่งในกระดูกแกนที่สำคัญของร่างกาย จะมีหน้าที่ช่วยค้ำจุนและรองรับน้ำหนักของ ร่างกาย ประกอบด้วยกระดูกชิ้นเล็กๆ ลักษณะเป็นข้อๆ

แต่ละข้อของกระดูกสันหลังจะเชื่อมต่อกันด้วยกล้ามเนื้อและเอ็น และนอกจากนี้ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อก็จะมีแผ่นกระดูกอ่อนที่เรียกว่า "หมอนรองกระดูก" ซึ่งก็ "สำคัญ" เพราะคอยทำหน้าที่รองรับและเชื่อม ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อเ พื่อป้องกันการเสียดสีในขณะร่างกายเคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคนไทยมีปัญหาสุขภาพร่างกายจาก "หมอนรองกระดูก" กันมาก อันเนื่องจากหมอนรองกระดูกเกิดการเสื่อม การเคลื่อน การแตกหรือฉีกขาด แล้วกดทับเส้นประสาท โดยอาการที่จะเกิดขึ้นก็คือ "ปวด" ปวดหลัง ตะโพก ก้น ปวดร้าวลงสู่ขาบางข้างหรือทั้งสองข้าง ซึ่งโดยปกติหมอนรองกระดูกจะมีความแข็งแรง เพราะต้องมีหน้าที่ช่วยรองรับแรง กระแทก รองรับน้ำหนัก แต่มันก็สามารถจะเสื่อมหรือเสียหายบาดเจ็บได้ ไม่ว่าจะด้วยวัยที่สูงขึ้น หรือจากการเกิดอุบัติเหตุ แต่ในยุคปัจจุบันนั้น . . . สาเหตุมีเพิ่มมากขึ้น เสี่ยงมากขึ้น

ด้วยสภาพการใช้ชีวิต สภาพการทำงานของผู้คนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะกับกลุ่มคนในเมืองวัยทำงาน นี่ก็อาจเป็นสาเหตุของหมอนรอง กระดูกเสื่อม-กดทับเส้นประสาทได้ง่ายๆ ซึ่งนอกจาก "เคลื่อนไหวร่างกายไม่ถูกท่า-ไม่ถูกวิธี" การ "ก้มตัวยกของหนัก" การ "ออกกำลังกาย" "นั่งทำงานนานๆ" หรือแม้แต่นั่งท่องโลกอินเทอร์เน็ตหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ก็เป็นสาเหตุได้ !!

ทั้งนี้ กับสิ่งที่ยืนยันได้ดีว่านับวันมนุษย์รุ่นใหม่ๆ จะป่วยด้วยสาเหตุจากปัญหา "หมอนรองกระดูก" สูงมากขึ้น ก็คือการที่วงการแพทย์ต้องคิดค้นพัฒนาวิทยาการ-อุปกรณ์ใหม่ๆ ในการรักษาให้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น

กับการรักษา "หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท" แนวทางใหม่ๆ นั้น นพ.ธีรศักดิ์ พื้นงาม หัวหน้าศูนย์ระบบประสาทไขสันหลัง เครือโรงพยาบาลพญาไท ให้ความรู้ความเข้าใจว่า... ปัจจุบันแพทย์จะมีเครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI Spine) ช่วยในการตรวจวินิจฉัย-ตรวจหาความผิดปกติของหมอนรองกระดูกในผู้ที่มีอาการ ต้องสงสัย ซึ่งถ้าพบว่าสาเหตุเกิดจากหมอนรองกระดูกก็จะวางแผนการรักษา







สำหรับในการรักษาปัจจุบันก็มีพัฒนาการสูงขึ้นโดยไม่ต้องเปิดแผลผ่าตัด (Non Opening Surgery) ซึ่งมี 2 แบบคือ . . . หากมีภาวะของหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทไม่มาก สามารถรักษาด้วยรูปแบบนิวคลีโอพลาสตี (Nucleoplasty) ซึ่งจะไม่มีแผล รักษาแล้วกลับบ้านได้เลย เพราะใช้เข็มขนาด 2.5 มม. สอดเข้าในหมอนรองกระดูกที่มีปัญหา แล้วปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุ ซึ่งจะเกิดความร้อนที่ปลายเข็ม จะสลายหมอนรองกระดูกส่วนหนึ่งออกไป

กรณีปวดหลังเรื้อรังและปวดร้าวลงขา เนื่องจากหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทไขสันหลัง จะรักษาโดยใช้กล้องขนาดจิ๋วเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 มม. หรือกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscope) เจาะและสอดกล้องผ่านใยกล้ามเนื้อไปยังจุดที่มีปัญหา โดยใส่เครื่องมือผ่าตัดผ่านกล้องเข้าไปตัดหมอนรองกระดูกโดยตรง ไม่ต้องเลาะกล้ามเนื้อหรือตัดกระดูกสันหลัง แผลจะมีขนาดเล็กเพียง 8 มม. ผู้ป่วยจะฟื้นตัวเร็ว ระยะในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจะสั้น

อย่างไรก็ดี นพ.ธีรศักดิ์บอกว่า หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทนี้ เมื่อรักษาแล้วก็มีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก หากผู้ป่วยไม่ปรับพฤติกรรม ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรื่องปวดหลัง คือ "การป้องกันไม่ให้เกิด"

"หลักสำคัญของการป้องกันคือ พยายามจัดท่าทางการทำงานหรือกิจวัตรประจำวันให้ถูกต้อง ต้องให้แนวกระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรงเสมอ และหลีกเลี่ยงการทำอะไรที่ใช้กล้ามเนื้อหลังมากๆ รวมถึงหมั่นบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงไว้เสมอ เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่คอยตรึงแนวกระดูกสันหลังไม่ให้เคลื่อนไหวมากเกินไป" ...หัวหน้าศูนย์ระบบประสาทไขสันหลังให้คำแนะนำที่อย่ามองข้าม

ยุคนี้ไปทางไหนก็ได้ยินคนป่วยเพราะ "หมอนรองกระดูก"

วงการแพทย์ได้ "พัฒนาวิธีการรักษา" ที่มีประสิทธิภาพสูง

แต่ก็เหมือนกับทุกโรค . . . คือ "ป้องกันไม่ให้เกิดดีที่สุด !!!"

ไขข้อข้องใจ กับ 9 ความจริงของระบบเผาผลาญร่างกาย

True or False : กับ 9 ความจริงของระบบเผาผลาญร่างกาย (Health plus)

"การทำงานของระบบเผาผลาญของมนุษย์เรา เป็นกระบวนการทางเคมีที่เกิดขึ้นในร่างกาย ที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ หายใจได้ การสูบฉีดเลือดคล่องตัว ส่งเสริมการทำงานของสมองและเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน แต่ถ้าพูดถึงอัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐานนั้น จะหมายถึงจำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายใช้ไปในแต่ละวัน เพื่อสนับสนุนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายนั่นเองค่ะ" แพทย์หญิงซูซาน โบเวอร์แมน ผู้เชียวชาญด้านวิทยาศาสตร์ อาหารและโภชนาการ ให้สัมภาษณ์กับ Health plus ต่อประเด็นที่หลายคนอยากจะถาม โดยเฉพาะระบบเผาผลาญที่ดี จะช่วยให้คุณผู้หญิงฟิตและเฟิร์มแลดูเป็นสาววัยยี่สิบอีกครั้งได้อย่างไร

:D: จริงหรือไม่ … เมื่ออายุมากขึ้น ทำให้การเผาผลาญแคลอรี่ลดลง

เมื่อเราอายุมากขึ้น น้ำหนักตัวก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากมีการออกกำลังกายน้อยลงกว่าเดิม ส่งผลให้มีการเผาผลาญแคลอรี่ลดลงในแต่ละวัน ร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อลดลง รูปร่างจึงหนาขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการบริหารกล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด เพื่อให้มีการเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้น รวมทั้งการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อจะช่วยควบคุมการเพิ่มขึ้น ของน้ำหนักที่เกิดจากวัยที่สูงขึ้นได้เป็นอย่างดี

:D: จริงหรือไม่ … ระบบการเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกายของเราไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้

บางคนโชคดี ที่สามารถทานอาหารได้ตลอดเวลาโดยที่น้ำหนักไม่เพิ่ม ซึ่งอาจมาจากการเลือกบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพและมีแคลอรี่ต่ำก็ได้ หรือบางทีร่างกายอาจจะมีการเคลื่อนไหวอยู่บ่อยๆ ดังนั้น หากคุณต้องการให้ร่างกายของคุณมีการเผาผลาญได้มากขึ้น เพียงคุณเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อใช้กล้ามเนื้อมากขึ้นในระหว่างวัน ก็จะช่วยให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น

:D: จริงหรือไม่ … เครื่องดื่มเย็นๆ ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีขึ้น

ผลจากการปฎิบัติการทดลอง พบว่า ผู้ที่บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มเย็นจะมีการเผาผลาญแคลอรี่เพิ่มขึ้นเล็ก น้อย (เพิ่มขึ้นประมาณวันละ 10 แคลอรี่)โดยการเผาผลาญแคลอรี่ดังกล่าวมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อย ซึ่งแทบไม่มีผลต่อการทำให้น้ำหนักลดลงเลย

:D: จริงหรือไม่ … การลดการบริโภคแคลอรี่ ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญช้าลง

ตามธรรมชาติแล้ว ร่างกายจะทำหน้าที่เก็บรักษาแคลอรี่ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การลดการบริโภคแคลอรี่จะทำให้แคลอรี่ที่สะสมในร่างกายลดลง ส่งผลให้อัตราการเผาผลาญแคลอรี่ลดลงตาม แต่เพียงส่วนน้อยเท่านั้น ถ้าเรามีการเคลื่อนไหวอย่างกระฉับกระเฉง ก็จะทำให้เรามีน้ำหนักตัวลดลง โดยไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเผาผลาญในร่างกายได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น ควรทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการบวกกับออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ตามปกติ

:p: จริงหรือไม่ … เมื่องดบริโภคอาหารในตอนกลางคืนช่วยลดน้ำหนักได้

การหยุดบริโภคหลังมื้ออาหารปกติจะส่งผลให้มีน้ำหนักตัวลดลง เนื่องจากการบริโภคให้แคลอรี่โดยรวมลดลง ไม่ใช่เกิดจากการบริโภคที่ให้แคลอรี่เร็วกว่าเดิม ดังนั้น การบริโภคอาหารเพื่อให้ได้รับแคลอรี่ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จึงไม่มีผลให้คุณลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น เว้นแต่คุณจะบริโภคอาหารที่ให้แคลอรี่ในปริมาณที่น้อยกว่าความต้องการของ ร่างกาย คุณก็จะสามารถลดน้ำหนักได้

:p: จริงหรือไม่ … ทานอาหารประเภทโปรตีนเป็นประจำช่วยให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นได้

อัตราการเผาผลาญในร่างกาย ซึ่งหมายถึงปริมาณแคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญในระหว่างที่เรานอนหลับมีความ สัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งมีวิธีที่ดีที่สุดที่เราควรทำคือ การทานอาหารที่มีโปรตีนสูงอย่างพอเพียงอย่าง ปลา เป็ด ไก่ ไข่ขาว นมขาดมันเนย รวมถึงโปรตีนจากถั่วเหลืองเช่น โปรตีนเกษตร เต้าหู้ และอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงระบบการเผาผลาญของร่างกายจะมีประสิทธิภาพยิ่ง ขึ้น

:) จริงหรือไม่ … การทานอาหารเสริมมีผลต่อการเผาผลาญ ร่างกายทำให้ดูแก่ก่อนวัยหรือไม่

ผลจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จะช่วยให้กระบวนการเผาผลาญมี ประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่บริโภคการรับประทานอาหารอย่างถูกส่วนต้องเป็นอาหาร ที่มีปริมาณโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และไขมันเพื่อสุขภาพ อาทิ ไขมันจากปลาและถั่ว อย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้เราดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ปัจจุบัน มีผู้บริโภคจำนวนมากบริโภคผลิตภัณฑ์อาการเสริมวิตามินรวม เกลือแร่ และน้ำมันปลา เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารสำคัญเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน

:R: จริงหรือไม่ … ถ้าระบบเผาผลาญร่างกายดี รูปร่างหน้าตาก็จะดูอ่อนกว่าวัยด้วย

หนึ่งในวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญในร่างกายที่ดีที่สุด คือ การสร้างเสริมกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยลดไขมันและทำให้มีรูปร่างที่สมส่วน ซึ่งก็จะส่งผลให้เราแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย สำหรับผู้หญิงไม่ควรกังวลว่า การออกกำลังกายจะไปเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แล้วกล้ามเนื้อจะใหญ่ขึ้น แต่ในทางกลับกันยิ่งจะทำให้มีรูปร่างบาง กระชับสมส่วนและดูอ่อนเยาว์ขึ้นต่างหาก

:y: จริงหรือไม่ … เมื่ออายุเลยเลข 30 ระบบเผาผลาญร่างกายก็ยิ่งลดลงตามไปด้วย

อัตราการเผาผลาญในร่างกายจะชะลอตัวลดลงตามอายุที่มากขึ้น เนื่องจากออกกำลังกายน้อยลง เมื่อเราอายุมากขึ้นหรือออกกำลังกายน้อยลง จึงทำให้เกิดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เนื่องจากมวลกล้ามเนื้อที่หนาแน่นเป็นปัจจัยสำคัญ ต่อมาการเผาผลาญแคลอรี่ ทั้งยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การเผาผลาญแคลอรี่มีปริมาณลดลงในแต่ละวัน วิธี การแก้ไขปัญหานี้ก็คือ ทานอาหารที่มีโปรตินในปริมาณที่พอเพียงและออกำลังกายอย่างเหมาะสม เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแกร่ง เช่น เต้นแอโรบิค เดินวิ่ง เหยาะๆ ว่ายน้ำและอื่นๆ ก็จะยิ่งทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้ดีขึ้น รูปร่างก็จะดูสมส่วนและสมวัยด้วย

วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การจัดการด้านการเงิน

บทที่ 5. การจัดการการเงิน + วินัย ในธุรกิจHBL
ทั้งหมดมาจากประสบการณ์ในการ “ทำ” ธุรกิจ HBL ของโอโดยตรง
บางทีมันอาจไม่ถูกต้องทั้งหมดนะคับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ปรับทัศนคติเรื่องเงินก่อนนะคับ
รวยมี 2 แบบ คือ รวยเพราะมีมากเกินพอ กับ รวยเพราะมีความพอเพียง
จนมี 2 แบบ คือ จนเพราะมีไม่พอ กับ จนเพราะไม่รู้จักพอ
เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง...นอกเสียจาก ว่าเราจะไม่มีมัน
“ วินัย ” คือสิ่งสำคัญที่สุด ที่เราต้องใช้ในการจัดการการเงิน
เราต้องคิดว่าเงินเป็นสิ่งดี เราจึงจะดึงดูดเงินเข้ามา ถ้าเราคิดว่าเงินไม่ดี เราก็กำลังจะผลักเงินออกไป
ในโลกใบนี้ ไม่มีอะไร “ถูก” หรือ “แพง” มีแต่ “คุ้มค่า” หรือ “ไม่คุ้มค่า ”
ดังนั้น อะไรบางอย่างที่เราคิดว่า “ แพง ” จริงๆแล้วมันไม่ได้แพง เพียงแต่เรามีเงินไม่มากพอที่จะซื้อมันเท่านั้นเอง

ขั้นตอนการจัดการการเงิน

1. ทำงบการเงิน (บัญชีรายรับ-รายจ่าย) เพื่อให้เรารู้สถานการณ์การเงินของเรา
ใช้อะไร จ่ายอะไร เขียนมาให้หมด ไม่สำคัญว่ามากหรือน้อย
ถ้าเรารู้ว่า เรามีปัญหาทางการเงินตรงจุดไหน เราก็สามารถจัดการกับมันได้ทันการณ์
และนั่น.....เป็นเหตุผลที่เราต้องทำ “งบการเงิน” (เพื่อทราบปัญหา)

2. ต้องรู้ว่า ถ้าเราจะรวยได้ “ รายรับต้องมากกว่ารายจ่าย ”
ดังนั้นเราสามารถเปลี่ยนแปลงสถานะทางการเงินของเราได้ 3 วิธี
2.1 เพิ่มรายรับ ( ในHBL เรากำหนดได้ ขึ้นอยู่กับ “ปริมาณ” การลงมือทำ )
2.2 ลดรายจ่าย (เรากำหนดได้ด้วยตัวเราเอง)
2.3 ทำทั้ง 2 อย่าง พร้อมๆกัน

3. จ่ายเงินให้กับตัวเองก่อน 10 % (ออมเงิน 10 % ของรายได้เสมอ)
คนส่วนใหญ่ชอบพูดว่า “ไว้มีรายได้มากกว่านี้อีกหน่อย แล้วฉันจะเก็บเงิน ”
แล้วสุดท้ายเขาก็ไม่ได้เก็บเงินไปจนสิ้นชีวิต
ถ้าเราไม่เก็บเงิน (ไม่จ่ายให้กับตัวเองก่อน) เราก็เหมือนทำงานฟรี และถังแตก
จ่ายให้ตัวเองก่อนจ่ายหนี้
จ่ายให้ตัวเองก่อนจ่ายให้คนอื่น
จงทำงานเพื่อบัญชีเงินฝากของเราเอง
คนส่วนมากไม่เข้าใจว่า เขาจะ “เก็บเงินไปทำไม”
เขาก็จึงไม่ได้เก็บ เพราะมันเป็นเรื่องที่ “ ไม่จำเป็น ” และ “ไม่ถูกตัด”
ไม่เหมือนจ่ายค่าโทรศัพท์ ค่าไฟ ค่าน้ำ ฯลฯ พวกนี้ ไม่จ่าย “ถูกตัด”
ถ้าเราเข้าใจว่าทำไมต้องเก็บ การเก็บเงินจะเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด
ทั้งต่อ ปัจจุบัน และ อนาคต
เราเก็บเงินไปเพื่อลงทุนต่อ แล้วจึงเก็บเกี่ยวผลของการลงทุนนั้น มาใช้ได้ตลอดชีวิตไม่มีที่สิ้นสุด
(ไว้มีเงินเก็บจากการทำธุรกิจประมาณ100,000บาท ในบัญชี เราจะคุยกันอีกครั้งในเรื่องนี้ อย่าลืมทวงถามแล้วกันนะคับ)
เราต้องไม่เป็นแค่ “ นักเก็บเงิน ” แต่เราเก็บเงิน ก็เพื่อจะกลายเป็น “ นักลงทุน ”
ข้อแตกต่างระหว่าง “ นักเก็บเงิน ” กับ “ นักลงทุน ” คือ ความเร็วในการทำให้เงินโตขึ้น
สิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของโลก คือ “ ดอกเบี้ยทบต้น ”
แล้วคุณเลือกรับดอกเบี้ยทบต้น จาก “เงินลงทุน” หรือ “หนี้”
มันเป็นตัวเลขที่มหาศาลทั้งนั้น

4. ชำระหนี้สินก่อน จ่ายเพื่อซื้อของใหม่
ไม่ชำระหนี้ ก็ไม่มีทางมั่งคั่ง
ถ้าเราติดลบ (-) สิ่งแรกที่เราควรทำคือ ทำให้มันเป็นศูนย์ (0)
และจากนั้น เราจะสามารถทำให้มันเป็นบวก (+) ได้
อะไรที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว ก็จ่ายก่อนเลย
ซื้อของแต่เงินสด อย่าซื้อด้วยความสบายปัจจุบัน แล้วยัดเยียดภาระให้กับอนาคต
แต่ถ้าซื้อผ่อนไปแล้ว อย่ามีของที่ต้องผ่อนในระยะเวลาเดียวกัน เกิน 2 ชิ้น

ง่ายๆ กับการจัดการการเงินใน HBL
เมื่อขายของได้ แบ่งเงินเป็น 4 ซอง
1. ต้นทุน 50 % ซื้อ Stock คืนในคลังสินค้าของเราเอง
2. 10% จาก “กำไร” ------- เงินเก็บ (จ่ายให้ตัวเองก่อน)
3. 30% จาก “กำไร” ------- ลงทุนกลับในธุรกิจ (อบรม ,ซื้อรายชื่อ, ลงโฆษณา, ค่าเดินทางธุรกิจ, ค่าส่งของ , อื่นๆ)
4. 60% จาก “กำไร” ------- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าผ่อน ค่าอาหาร และหนี้ต่างๆ)

สาธุ..สาธุ ใครทำได้ขอให้ร่ำรวย ๆ ๆ ๆ ครับ.

Work@Home

Home Bussiness System หรือระบบการทำงานจากที่บ้าน

“ ใช้เวลาว่างของคุณไปกับงานเสริมนอกเวลา

เริ่มต้นธุรกิจที่ให้รายได้ตอบแทนอย่างไม่มีขีดจำกัดจากที่บ้านของคุณเอง “

ใครๆ ก็สามารถทำธุรกิจนี้และมีรายได้เสริมได้
ระบบ ของเราได้รับการทดลองใช้และได้ผลมาแล้ว มาจากผู้คนมากมายหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น แม่บ้าน แพทย์ พยาบาล ช่างประปา นักการบัญชี เลขานุการ และผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ อีกมากมาย

ตัวอย่างบุคคลที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจของเรา

image

คุณจิรวัฒน์ และ คุณปุณณดา วงศ์วิวัฒน์ไชย

อดีต เคยเป็นพนักงานประจำบริษัทมหาชน เหนื่อย เครียด มีปัญหาสุขภาพ ได้รับโอกาส ให้รู้จักกับระบบ 60MM เรียนรู้ง่าย เริ่มจากการใช้เวลาหลังเลิกงานวันละ 2 ชม.  สร้างรายได้เสริมเดือนแรก 8,000 บาท จึงคิดจริงจังที่จะสร้างธุรกิจที่มั่นคง และให้อนาคตที่ดีกับลูก โดยใช้ระบบสนับสนุน และเรียนรู้ทุกๆอย่าง ปัจจุบันทำ ธุรกิจมา 5 ปี เราสองคนลาออกจากงานประจำที่ทำมามากกว่า 8 ปี ยิ่งทำธุรกิจยิ่งมี ความสุข เพราะรู้สึกว่าชิวิตมีคุณค่ามากขึ้นเรื่อยๆ สนุก ไม่เครียด มีเพื่อนที่ ดี เดินทางอบรมกับธุรกิจทั้งในและต่างประเทศมาไม่ต่ำกว่า 7 ประเทศ ชอบธุรกิจ นี้ที่มุ่งเน้นพัฒนาตัวเรามากที่สุด รายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 80,000 – 150,000 บาท และมันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

image

คุณนฤมล ศรีตูมแก้ว

ดิฉันชื่อ นฤมล ศรีตูมแก้ว ชื่อเล่นชื่อ นัท ดิฉันรู้จักธุรกิจนี้เพราะพี่สาวกับพี่เขยแนะนำ (คุณเบญจมาศ ศรีตูมแก้ว และ Mr. Simon Brown ซึ่งคุณจะได้รู้จักใน VCD ชุด ข้อมูล) ดิฉันเคยเป็นนักข่าวประจำวารสารฉบับหนึ่ง เมื่อก่อนดิฉันไม่ค่อยสนใจที่จะเริ่มธุรกิจเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นอยากทำงานเป็นนักข่าวให้ดีที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไปดิฉันเริ่มเห็นว่าอนาคตของการเป็นลูกจ้างมันไม่แน่นอน ไม่มีอิสระภาพในการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง การเป็นเจ้าของธุรกิจเท่านั้นที่จะให้ความมั่นคงกับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเวลาและการเงิน ดิฉันจึงตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นรายได้จากธุรกิจนี้ก็แซงเงิน เดือนที่ดิฉันเคยได้รับจากการเป็นนักข่าวแล้ว ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นจริงๆกับโอกาสและอนาคตของตัวเอง ปัจจุบันนี้รายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 25,000 บาท

The Super HOM

ภาพบรรยากาศในงานฝึกอบรม Super HOM ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค


วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Home Bissiness system

International Business@Home Thailand
โอกาสสร้างรายได้เสริม เริ่มต้นธุรกิจอิสระนานาชาติ ทำงานที่บ้าน

ผู้คนจำนวนมากมาย
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
สร้างรายได้ หลักหมื่น หลักแสน
หลักล้านบาทต่อเดือน
มีชีวิตง่ายๆ ด้วยการทำธุรกิจอยู่ที่บ้านตัวคนเดียว
มีอิสรภาพทั้งการเงินและเวลา และไม่ต้องเครียด !!


คุณเคยฝันอยากมีชีวิตอย่างนั้นบ้างไหม

หรือพบเห็นโฆษณามากมาย แล้วเพียงสงสัยว่ามันจริงหรือเปล่า
หรือแอบอิจฉาว่าเขาทำกันอย่างไร หรือกังวลว่ามันดีเกินจริงหรือเปล่า
และมันเป็นธุรกิจจริงๆ หรือเป็นแค่เกมส์การเงิน
แล้วถ้ามันดีจริงคุณอยากทำ คุณก็อาจกังวลว่า
คุณจะเลือกบริษัทไหน อย่างไร แล้วคุณจะทำได้หรือเปล่า

คำตอบมีอยู่ที่ไหน ใครจะเป็นผู้ให้คุณ ??
สุดารัตน์
ขันธมณฑล

“จบการศึกษาแล้ว
ทำงานประจำ
อยากมีรายได้
เสริมเพิ่มขึ้น"
ภัทรนันท์ สุดรุ่ง
"ข้าราชการ
ต้องการเพิ่ม
รายได้เตรียมค่า
ใช้จ่ายให้กับลูก"

ทัชชกร
ไชยสงคราม

“แม่บ้านเลือกออก
แบบชีวิตเอง
มีเวลาอยู่กับลูก
ครอบครัว”

จิรฐา วงศ์อุบล
“ธุรกิจของตนเอง
รายได้ 80,000
ดีกว่าเงินเดือน
แน่นอน”
วรพินันท์
แก้วไพจิตต์

"ดีกว่าเป็นลูกจ้าง
ธุรกิจส่งออก
สนุกและมีอิสระ
มากกว่า"
ปัณณิตา สมเพียร
“โปรแกรมเมอร์
รู้สึกถึงความไม
่ มั่นคงของลูกจ้าง
อยากทำงาน
ให้กับตัวเอง”
รัศมิ์ธกานต์
วุฒิธรรมมี

“ตำแหน่งผู้จัดการ
แต่ไม่อยากเป็น
ลูกจ้างชั่วชีวิต”
กิติเกียรติ
ลิ่มอภิชาต

“นักธุรกิจพบโอ
กาสทองของธุรกิจ
ที่น่าทึ่ง เริ่มต้นง่าย
ผลตอบแทนสูงมาก”
เบญจมาศ
ศรีตูมแก้ว

“รายได้ต่อเดือน
มากกว่า 2 ล้าน
บาท ในวัยเพียง
33 ปี”

The Life of Pay Cheque to Pay Cheque :

:: หากมองถึงรายได้ของคุณในปัจจุบัน ::
บางที คุณอาจจะหงุดหงิดที่เงินเดือนไม่พอใช้
ไม่มีเงินเหลือพอจ่ายบิลต่างๆ
บางที คุณอาจจะเหน็ดเหนื่อยกับการตื่นแต่เช้า
เพื่อฝ่าการจราจรในกรุงเทพฯไปทำงานทุกวัน
บางที คุณอาจจะต้องการใช้เวลากับครอบครัว
หรือลูกๆของคุณมากขึ้นกว่าทุกวันนี้
บางที คุณอยากจะสร้างรายได้เพิ่มจากเงินเดือน
ประจำที่ได้รับอยู่ในปัจจุบัน
เราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้
แต่เราออกแบบอนาคตได้




You Can Live Your Life or Design Your Future :

หากคุณกำลังมองหาสิ่งใหม่ๆในชีวิต
และต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิต
ไปสู่โอกาสในฝันของตนเอง

คุณต้องเรียนรู้ระบบ 3 กระแสเศรษฐกิจใหม่
1 กระแสธุรกิจ E Commerce & Internet
2 กระแสธุรกิจ Home-based Business
3 กระแสธุรกิจ Wellness Industry


เพื่อค้นพบความลับที่คนรวยเรียนรู้ในหลักการใช้ Leverage
หรือ
พลังทวี เพื่อสร้างรายได้ Residual Income
ที่ไม่มีขีดจำกัดและไม่รู้จบตลอดชีวิต

It’s Time to Own You Life Again :
...ยิินดีต้อนรับสู่การเริ่มต้น
ชีวิตบทใหม่ของคุณ!!


ดูชุดข้อมูลที่ช่วยให้คุณเริ่มต้น
สร้างธุรกิจส่วนตัวจากที่บ้านของคุณเอง

ขอรับ VCD และ
ข้อมูลทางอีเมล
ฟรี !!
คลิ๊กที่นี่ www.fast-riches.com/

วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

6 สาวเว็บแคมน่ารักๆ มาแล้ว


http://www.upload-thai.com/download.php?id=4865e768852b5e7e41586f7b008b3305


http://www.upload-thai.com/download.php?id=80a878d9ab8ae417781322374b8cd46c


http://www.upload-thai.com/download.php?id=970c73b460dca92e97a640a535f6b42a


http://www.upload-thai.com/download.php?id=17a16ec98b6fee7fcf713786182b0f01


http://www.upload-thai.com/download.php?id=76620462bd49609422979ad1b65c7a63


http://www.upload-thai.com/download.php?id=d8d80143c04ae54af2e0018dcb906b68

คู่หนุ่มสาวนักศึกษาจากมอสโคว ใส่กันมันสะใจอีกคู่

รูป
http://imagepix.org/image/118a8a8f0fba3c77e185602b4df19857.html

ลิงค์
http://hotfile.com/dl/24897317/a572f93/W048.rar.html

14 มีนา พวกชุมนุมทำไรช่างมัน ส่วนเราปาร์ตี้ล่อเป้ากันทั้งคืนมันกว่า

รูป
http://www.pixhost.org/show/624/1894918_c69-collegefuckfest-10-03-14-party-all-night-wmv.jpg

ลิงค์
http://hotfile.com/dl/32877246/cb9ada8/c69-collegefuckfest.10.03.14.party.all.night.wmv.rar.html

เอากันในห้าง

รูป
http://imagetwist.com/j38clsae5yqz/Sex_in_the_Mall.wmv.jpg.html

ลิงค์
http://hotfile.com/dl/25969082/c1ed089/Sex_in_the_Mall.wmv.html

แอบถ่ายนักเรียน

http://www.zidoupload.com/f-47C98FeX

ตู้หยอดหญิง เหมาะกับชีวิตเร่งรีบ

ข้อมูลสรุปนี้ไม่พร้อมใช้งาน โปรด คลิกที่นี่เพื่อดูโพสต์

หลุดน้องนานาชาติ

ข้อมูลสรุปนี้ไม่พร้อมใช้งาน โปรด คลิกที่นี่เพื่อดูโพสต์

บอกได้คำเดียวว่าสวย

Pretty Japanese Bride XXX.part1
http://www.mediafire.com/?ti5ye0uz0ai

Pretty Japanese Bride XXX.part2
http://www.mediafire.com/?toojtt0yymj

Pretty Japanese Bride XXX.part3
http://www.mediafire.com/?luzrn1y2th5

Pretty Japanese Bride XXX.part4
http://www.mediafire.com/?ydtznwyudd1

Pretty Japanese Bride XXX.part5
http://www.mediafire.com/?ghyq1zlmw1j

หลุดวัยรุ่นเกาหลีเมา

Download: http://freakshare.net/files/ljj9oezh/amaspart1.rar.html
Download: http://freakshare.net/files/oas27lej/amaspart2.rar.html

วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

ไฟฟ้าแสงสว่างและการประหยัดพลังงาน

"ไฟฟ้าแสงสว่าง" และการประหยัดพลังงาน

"แสงสว่าง" เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตของมุษย์ ระบบแสงสว่างที่ดี นอกจากจะทำให้การประกอบกิจกรรมต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเสียค่าใช้จ่ายในการใช้งานน้อยด้วย

ทำอย่างไรระบบแสงสว่างถึงจะใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพ
1. เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่างอย่างเหมาะสมตามลักษณะการใช้งาน
2. ออกแบบระบบแสงสว่างให้เหมาะสม
3. ใช้งานไฟฟ้าแสงสว่างอย่างถูกวิธี
4. หมั่นบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง



1. หลักการในการเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง
1.1 การเลือกหลอดแสงสว่าง

- พิจารณาประสิทธิภาพของแสงโดยดูที่ค่าลูเมนต่อวัตต์ ถ้ายิ่งมากยิ่งดีและมี ประสิทธิภาพสูง
(ลูเมน คือ ปริมาณแสงที่ปล่อยออกมาจากหลอดแสงสว่าง ส่วนวัตต์ คือพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการกำเนิดแสง)

ชนิดของหลอดแสงสว่าง
ลูเมนต่อวัตต์
หลอดไส้
8-22
หลอดแสงจันทร์
26-58
หลอดฟลูออเรสเซนต์
30-83
หลอดเมทัลฮาไลท์
67-115
หลอดโซเดียมความดันสูง
74-132

- อายุการใช้งาน หลอดแสงสว่างราคาถูกอายุจะสั้น จึงต้องเปลี่นนบ่อยๆซึ่ง อาจจะเสียค่าใช้จ่ายแพงกว่าหลอดแสงสว่างราคาแพงแต่อายุการใช้งานนานเช่น หลอดไส้ราคาถูก กว่าหลอดตะเกียบ (หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์) แต่อายุการใช้งานสั้นสั้นกว่า เป็นต้น

- สีของแสงที่มาจากหลอดแสงสว่างต้องเหมาะกับลักษณะการใช้งาน เช่น สีคูล ไวท์ (แสงสว่างค่อนไปทางสีขาว) หรือเดย์ไลท์ (แสงสว่างสีขาว) เหมาะสำหรับห้องทำงาน ห้องเรียน ซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้า ส่วนสีวอร์มไวท์ (แสงสว่างค่อนไปทางสีส้ม) เหมาะสำหรับห้องนอน ห้องจัดเลี้ยง ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น



หลอดไส้ เป็นหลอดแสงสว่างราคาถูก สีของแสงดี ติดตั้งง่ายให้แสสว่างทันที่ เมื่อเปิด สามารถติดอุปกรณ์เพื่อปรับหรือหรี่แสงได้ง่าย แต่มีประสิทธิภาพแสงต่ำมาก อายุการใช้งานสั้น ไฟฟ้าที่ป้อนให้หลอดจะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนกว่าร้อยละ 90 จึงไม่ประหยัด พลังงาน แต่เหมาะสมกับการใช้งานประเภทที่ต้องการหรี่แสง เช่น ห้องจัดเลี้ยงตามโรงแรม ส่วนหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ไม่สามารถหรี่แสงได้

หลอดฟลูออเรสเซนต์ เป็นหลอดที่มีประสิทธิภาพแสงและอายุการใช้งานมากกว่า หลอดไส้ หลอดฟลูออเรสเซนต์แท่งยาวที่ใช้แพร่หลายมีขนาด 36 วัตต์ แต่ยังมีหลอดแสง สว่างประสิทธิภาพสูง (หลอดซุปเปอร์ลักซ์) ซึ่งมีราคาต่อหลอดแพงกว่าหลอดแสสว่าง 36 วัตต์ธรรมดา แต่ให้ปริมาณแสงมากกว่าร้อยละ 20 ในขนาดการใช้กำลังไฟฟ้าที่เท่ากัน นอกจากนี้ยังมีหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ (CFL) หรือหลอดตะเกียบชนิดที่ให้สีของ แสงออกมาเทียบเท่าร้อยละ 8 เท่าของหลอดไส้ มี 2 แบบ คือ แบบขั้วเกลียวกับขั้วเสียบ

หลอด SL แบบขั้วเกลียว มีบัลลาสต์ในตัว มีขนาด 9, 13, 18, 25 วัตต์ ประหยัดไฟร้อยละ 75 เมื่อเทียบกับหลอดไส้ เหมาะกับสถานที่ที่เปิดไฟนานๆ หรือบริเวณ ที่เปลี่ยนหลอดยาก เช่น โคมไฟหัวเสา ทางเดิน

หลอดตะเกียบ 4 แท่ง ขั้วเกลียว (หลอด PL*E/C) ขนาด 9, 11, 15 และ 20 วัตต์ มีบัลลาสต์อีเล็กทรอนิกส์ในตัว เปิดติดทันที ไม่กระพริบประหยัดไฟได้ร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับหลอดไส้

หลอดตะเกียบตัวยู 3 ขด (หลอด PL*E/T) ขนาดกะทัดรัด 20 และ 23 วัตต์ ขจัดปัญหาหลอดยาวเกินโคมประหยัดไฟได้ร้อยละ 80 ของหลอดไส้

หลอดตะเกียบขั้วเสียบ (หลอด PLS) บัลลาสต์ภายนอกขนาด 7, 9 และ 11 วัตต์ ประหยัดไฟร้อยละ 80 ของหลอดไส้

หลอดตะเกียบ 4 แท่ง ขั้วเสียบ (หลอด PLC) บัลลาสต์ภายนอก ขนาด 8, 10, 13, 18 และ 26 วัตต์ ประหยัดไฟร้อยละ 80 ของหลอดไส้



หลอดแสงจันทร์ ประสิทธิภาพแสงต่ำกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์เล็กน้อย แต่อายุ การใช้งานนานกว่า คุณภาพแสงลดลงมากเมื่อใช้ไปนานๆ เหมาะสมกับเป็นไฟถนน ไฟ สนามตามสวนสาธารณะ

หลอดเมทัลฮาไลด์ ประสิทธิภาพสูง คุณภาพแสงดี แต่ต้องใช้เวลาอุ่นหลอดเมื่อ เปิด เหมาะกับการใช้ส่องสินค้าในห้างสรรพสินค้า

หลอดโซเดียมความดันสูง ประสิทธิภาพสูง แต่คุณภาพแสงไม่ดี มักใช้กับไฟ ถนน ไฟส่องบริเวณที่เปลี่ยนหลอดยาก พื้นที่นอกอาคาร

หลอดโซเดียมความดันต่ำ มีประสิทธิภาพสูงสุดแต่คุณภาพแสงเพี้ยนมาก เหมาะสมกับไฟถนน ไฟรักษาความปลอดภัย

1.2 การเลือกบัลลาสต์

บัลลาสต์ คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการเปิดติดและควบคุมไฟฟ้าที่จ่ายให้กับหลอดฟลู ออเรสเซนต์ให้เหมาะสม เราสามารถแบ่งได้ 3 ชนิดหลักๆ ดังนี้

1. บัลลาสต์ขดลวดแกนเหล็กแบบธรรมดา เป็นบัลลาสต์ที่ใช้กันแพร่หลายร่วม กับหลอดฟลูออเรสเซนต์ เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดที่พันรอบแกนเหล็ก จะทำให้แกน เหล็กร้อน ทำให้มีพลังงานสูญเสียประมาณ 10-14 วัตต์
2. บัลลาสต์ขดลวดแกนเหล็กประสิทธิภาพสูง เป็นบัลลาสต์ที่ทำด้วยแกนเหล็ก และขดลวดที่มีคุณภาพดี ซึ่งมีการสูญเสียพลังงานจะลดลงเหลือ 5-6 วัตต์

3. บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นบัลลาสต์ที่ทำด้วย ชุดวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีการสูญเสียพลังงานน้อยประมาณ 1-2 วัตต์ เปิดติดทันทีไม่กระพริบไม่ต้อง ใช้สตาร์ทเตอร์ ไม่มีเสียงรบกวน ทำให้อายุการใช้งานของหลอดแสงสว่างนานขึ้น 2 เท่า ของหลอดแสงสว่างที่ใช้ร่วมกับบัลลาสต์แกนเหล็กธรรมดา ดังนั้นหากมีชั่วโมงการใช้งานต่อวันมาก ควรเลือกใช้บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดไฟแล้ว ยังมีประโยชน์อีกหลาย อย่างดังที่กล่าวมาข้างต้น


1.3 การเลือกโคมไฟแสงสว่าง

โคมประสิทธิภาพสูงจะไม่ดูดกลืนหรือกักแสงไว้ แต่จะช่วยในการลดจำนวนหลอด แสงสว่างได้ในขณะที่ความสว่างคงเดิม เช่น จากเดิมใช้หลอดไฟ 4 หลอดต่อ 1 โคม จะ ลดลงเหลือ 2 หลอดต่อ 1 โคม โดยที่แสงสว่างที่ส่องลงมาจะยังเท่าเดิม โดยทั่วไปมักใช้ หลอดฟ,ออเรสเซนต์ตามอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า



2. การออกแบบระบบแสงสว่างให้เหมาะสม
- ควรออกแบบให้ความสว่างเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไปและคำนึงถึงคุณ ภาพแสงด้วย กล่าวคือ ระดับความสว่างควรอยู่ในมาตรฐาน (ดูตารางมาตรฐานความสว่าง) คุณภาพแสงควรให้เหมาะกับประเภทการใช้งาน เช่น แสงสีขาวเหมาะกับการเขียนหนังสือ แสงสีส้มเหมาะกับใช้ในร้านอาหาร เป็นต้น
- ควรออกแบบให้กำลังไฟฟ้าติดตั้งไม่เกินมารตฐานที่กำหนดในพระราชบัญญัติ การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2535
- ใช้แสงธรรมชาติเข้าช่วย
- ใช้แสงธรรมชาติจากหลังคา จะช่วยลดจำนวนหลอดแสงสว่าง ช่วยประหยัดค่า ไฟและค่าบำรุงรักษา แต่กระจกที่ใช้ควรเป็นกระจก 2 ชั้น หรือกระจกติดฟิล์มเพื่อลดความ ร้อนจากแสงอาทิตย์ที่เข้ามาด้วย เหมาะกับห้องโถงตามโรงแรม ห้างสรรพสินค้า และโรงงาน
- ใช้แสงธรรมชาติจากบริเวณริมกระจกหน้าต่างร่วมกับแสงจากหลอดแสงสว่าง โดยใช้โฟโต้เซลล์เป็นตัวตรวจสอบระดับแสง ถ้าแสงธรรมชาติมากเพียงพอ หลอดแสงสว่างบางส่วน จะถูกปิด หรือหรี่แสงลง เพื่อไม่ให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกเปลี่ยนแปลงมากนัก เหมาะกับบริเวณที่ ทำงานใกล้หน้าต่างในอาคารสำนักงาน

ตารางมาตรฐานการออกแบบกำลังไฟฟ้า
ประเภท
วัตต์/ตารางเมตร
สำนักงาน โรงแรม สถานศึกษาและโรงพยาบาล
16
ร้านขายของ ศูนย์การค้า
23

3. การใช้งานอย่างถูกวิธี

- ปิดไฟเมื่อไม่ใช้งานเป็น เวลานานกว่า 15 นาที จะช่วยประหยัดไฟ โดยไม่มีผล กระทบต่ออายุการใช้งานของอุปกรณ์ เช่น ในช่วงพักเที่ยงของสำนักงาน ในห้องเรียน ส่วน ตามบ้าน เช่น ในห้องน้ำ ในครัว เป็นต้น
- เปิด ปิดไฟ โดยอัตโนมัติ โดยใช้อุปกรณ์ตั้งเวลาหรือสั่งจากระบบควบคุม อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยป้องกันการลืมปิดไฟหลังเลิกงานในอาคารสำนักงาน หรือสั่งปิดไฟ บริเวณระเบียงทางเดินในโรงแรม เป็นต้น
- ใช้อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหว (Occupancy Sensor) เหมาะกับห้อง ประชุม ห้องเรียน และห้องทำงานส่วนตัว โดยทั่วไปมี 2 ชนิด คือ อินฟราเรด และอัลตร้า โซนิค


แบบอินฟาราเรด
ตรวจ จับจากความร้อนที่ปลดปล่อยจากคน เหมาะกับพื้นที่ไม่กว้างนัก ทางเดิน บริเวณมีลมแอร์เคลื่อนไหวมาก และพื้นที่ที่มีการสั่นสะเทือน ไม่เหมาะสมกับห้องน้ำหรือ พื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนเคลื่อนไหว

แบบอัลต้าโซนิค
ตรวจ จับการเคลื่อนไหวของคลื่นเสียง มีความไวสูง เหมาะกับพื้นที่กว้าง ห้อง ประชุม ห้องน้ำ แต่ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่มีลมแรง บริเวณที่มีการสั่นสะเทือน ห้องที่มี เพดานสูง ถ้าระบบแสงสว่างบางแห่งมีความสว่างสูงมากเกินความจำเป็นควรจะถอดหลอดแสง สว่างบางส่วนออก พร้อมทั้งถอดบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์ออก (กรณีที่ใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์)แต่อย่างไรก็ตามหลังจากลดจำนวนหลอดแสงสว่าง แล้ว ต้องทำการตรวจวัดความ สว่างของแสงเพื่อให้อยู่ในมาตรฐานด้วย

ตารางมาตรฐานความสว่าง (มาตรฐาน IES)
ลักษณะพื้นที่ใช้งาน
ความสว่าง (ลักซ์)
พื้นที่ทำงานทั่วไป
300-700
พื้นที่ส่วนกลาง ทางเดิน
100-200
ห้องเรียน
300-500
ร้านค้า / ศูนย์การค้า
300-750
โรงแรม :
บริเวณทางเดิน
300
ห้องครัว
500
ห้องพัก ห้องน้ำ
100-300
โรงพยาบาล : บริเวณทั่วไป
100-300
ห้องตรวจรักษา
500-1,000
บ้านที่อยู่อาศัย : ห้องนอน
50
หัวเตียง
200
ห้องน้ำ
100-500
ห้องนั่งเล่น
100-500
บริเวณบันได
100
ห้องครัว
300-500

4. หมั่นบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อใช้งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างไปเป็นระยะเวลานานๆ จะพบว่าความสว่างลดลง ทั้งนี้เนื่องจากการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่างดำ
- ต้องสำรวจระดับความสว่างและการใช้งานอยู่เสมอ
- ต้องหมั่นทำความสะอาด โคมไฟ ฝาครอบกระจายแสง เพดานผนัง กระจก หน้าต่าง
- ควรเปลี่ยนหลอดแสงสว่างเป็นกลุ่มแทนที่จะเปลี่ยนทุกครั้งเมื่อหลอดเสีย จะ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากค่าแรงที่ลดลงจากการซื้อเป็นจำนวนมาก และยังทำให้ความ สว่างคงที่หรือดีขึ้นอยู่เสมอ ระยะเวลาที่ควรเปลี่ยนหลอดไฟให้ได้ผลคุ้มค่าคือ เมื่อร้อยละ 60-80 ของอายุการใช้งานหลอด

วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553

Driver Nootbook BenQ Joybook S53

เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ใช้รุ่นเดียวกับผม ขอฝากไว้ครับ

Driver Bluetooth
http://www.upload-thai.com/download.php?id=42990f9b908831039cd4676e0f49b941

Cardreader
http://www.upload-thai.com/download.php?id=6bff033a6523390d3e8b19631e2bac5a

Chipset driver
http://www.upload-thai.com/download.php?id=66b8ccfce3097efba1b07f5e12659146

LAN driver
http://www.upload-thai.com/download.php?id=2e3b8e052449f96e508bef0ea820940d

Modem driver
http://www.upload-thai.com/download.php?id=dac7874c06a6632bef9e3c0744f6d72b

audio driver
http://www.upload-thai.com/download.php?id=373600c07635779466a2a14aa5d01cf9

Touchpad driver
http://www.upload-thai.com/download.php?id=d0a8d469c7c2e2e37454043034e9e182

VGA driver
http://www.upload-thai.com/download.php?id=dd0cd20853a3fadcb1c20fca6e2561ec

Intel Wireless LAN
http://www.upload-thai.com/download.php?id=e9809cf4f309be925b4f27cd52cb7e5c