วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552

เตือนภัยร้านซ่อมคอมที่ระยอง รู้แล้วช่วยบอกต่อด้วย

ขออภัย~ หากเมลล์นี้รบกวนเวลาการทำงานของท่าน

กราบเรียนเพื่อนพนักงานทุกท่าน
ผมมีประสบการณ์ ( ที่ไม่ดี ) จะมาบอกเล่าให้เพื่อนๆพี่ๆ ได้ระวังตัวกันไว้
กับร้านค้าหนึ่ง ในห้าง "สตาร์พลาซ่า ระยอง"
ร้านนี้ชื่อว่า "Winner Ink & Computer" ป้ายชื่อร้านเป็นป้ายสีเหลืองใหญ่ๆ เขียนว่า "C-MAX" ใน
ร้านขายอุปกรณ์ Printer รับเติมหมึก
และรับซ่อมคอมพิวเตอร์ ตั้งอยู่ตรงข้าม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา สตาร์พลาซ่า ระยอง
ผมขอฝากเตือนทุกท่านว่า
"อย่านำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ของท่านไปซ่อม ที่ร้านนี้เด็ดขาด"
เพราะ ถ้าหากมันซ่อมแล้วเจ๊งขึ้นมา
"มันจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น~ แถมยังต้องจ่ายเงินให้มันอีกต่างหาก "
ถ้าหากไม่จ่ายมัน "มันจะรื้อทุกอย่างที่มันทำออกทั้งหมด โดยไม่สนใจอาการหลังรื้อว่าเป็นยังไง"
แถมยังมีขู่ทับอีกด้วย ~ " พี่ชายกูเป็นตำรวจ "
เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ธค. 2551 เป็นวันที่ผมจะกลับไปบ้านที่ ชลบุรี
วันนั้นน้องชายผมตั้งใจที่จะซื้อคอมใหม่
แต่ก็เห็นว่า ที่ห้องผมมีจอ 17" อยู่ 1 ตัว จึงตั้งใจที่จะซื้อแค่คอมอย่างเดียว ไม่ซื้อจอใหม่ แต่จอคอม
เก่าของผมนั้น มันสีไม่ค่อยดี
คือมีอาการสีซีดๆ ออกโทนเหลืองๆ แต่ถ้าตบๆที่จอ ก็จะกลับมาดีเหมือนเดิม ผมจึงตั้งใจจะนำจอคอมไป
ซ่อมให้น้อง ก่อนที่จะกลับชลบุรี
จึงไปหาร้านซ่อมที่สตาร์พลาซ่า โดยมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง บอกกับทุกร้านว่า "ต้องการได้ภายในวันนี้นะครับ"
ถ้าร้านไหน คิวเยอะ ต้องทิ้งไว้ ผมก็จะไม่ซ่อม เพราะถ้าหาที่นี่ไม่ได้ ก็ไปทิ้งไว้ให้น้องซ่อมที่นู่นก็ได้~

หลังจากที่ผมเดินหาอยู่ ผ่านไป 2 ร้าน เค้าก็บอกว่า "ช่วงนี้ไม่ค่อยมีช่าง ต้องทิ้ง
ไว้" ผมก็ไม่ซ่อม ในขณะที่เดินอยู่นั้น ผมก็ถูกเรียกจากร้านๆหนึ่ง ซึ่งก็คือร้านเจ้าปัญหานั่นเอง~~~ ร้านที่
ว่า ดูภายนอกเป็นร้านขาย Printer ซึ่งดูแล้วไม่เหมือนร้านซ่อมคอมเลย~ แต่เค้าบอกว่าเค้ารับซ่อม
คอมด้วย
หลังจากที่เค้าเปิดจอดูอาการ ผมก็บอกเงื่อนไขเดิมๆที่บอกเมื่อ 2 ร้านที่แล้วว่า
" พี่ทำเสร็จภายในวันนี้ได้ไม๊ครับ เพราะผมต้องเอาจอกลับชลบุรีวันนี้"
เจ้าของร้านหลังจากที่ดูอาการแล้ว ก็คุยว่า " โอ๊ย น้อง อาการเบสิคเลยเนี่ย
~ อีกซัก ชม.ครึ่ง มาเอาได้เลย"
"แล้วค่าซ่อมซักเท่าไหร่หรอครับ" ผมถาม
"ซัก 200 แล้วกัน" เจ้าของตอบ
2 ชม. ผ่านไป ( ผมเผื่อเวลาให้เค้าแล้วล่ะ ) ผมกลับไปที่ร้านอีกครั้ง แต่
เห็นสภาพจอคอมผมยังโป๊เปลือยอยู
โดยที่เจ้าของร้านยืนคุยกับลูกค้าอยู่ ไม่ได้สนใจอะไรผมนัก เมื่อลูกค้าไปแล้ว เค้าจึงหันมาคุยกับผม แล้ว
บอกว่า
"จอน้องเปิดฝายากมากเลยนะ กว่าจะเปิดได้ก็ตั้ง ชม.ครึ่งแล้ว แต่อาการนี้ แค่ไล่ไลท์ตะกั่วนิดหน่อยก็
เสร็จแล้ว"
( แต่ที่ผมเห็นคือ เค้าไม่ได้ใส่ใจกับจอผมมากกว่า )

ok ครับ ไหนๆเค้าก็เปิดฝาแล้ว ผมก็ไปเดินเล่นที่ Lotus ก่อน
อีก 2 ชม. ผมกลับมาอีกทีก็เห็นสภาพเดิมคือ จอผมโป๊เปลือย ตัวเค้ายืนคุยกับลูกค้า ผมมา เค้าก็ไม่
สนใจผม พอลูกค้าไปแล้ว
เค้าจึงหันมาพูดกับผมว่า
"ผมทำเสร็จแล้ว กำลังจะปิดฝาให้ "

ผมยืนรอเค้าอยู่ซักพัก ก็เห็นเค้าต่อสายแบบลวกๆ แล้วก็ปิดฝา เมื่อเปิดจอ
คอมเพื่อลองก็ได้พบว่า
จอคอมของผม เจ๊งเสียแล้ว~
อาการเสียใหม่ของจอผมคือ สีหายสนิท และหน้าจอสั่นพับๆๆๆ


"ก็คุณรีบนี่ ผมทำได้เท่านี้แหละ ค่าซ่อม 200 ครับ" มันบอก พร้อมกับทำสีหน้าเหมือนไม่แยแสกับสิ่งที่มัน
ทำ
ผมยืนนิ่ง ไม่รู้จะพูดยังไงกับการกระทำของมัน
มัน - "เอาไปสิ คุณรีบมากหนิ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา ถ้าคุณรีบ คุณก็เอาไปแบบนี้แหละ"
ผม - "พี่~ พี่ทำจอของผมพัง พี่ไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยหรอครับ"
มัน - "ตกลงคุณจะมีเรื่องใช่ไม๊ ก็คุณจะเอาวันนี้ไม่ใช่หรอ ผมก็ทำให้แล้ว เนี่ย ไลท์ตะกั่วให้หมดแล้ว
หรือ ถ้าคุณไม่พอใจ เดี๋ยวผมรื้อที่ผมทำมาทั้งหมดให้ก็ได้นะ"
ผมเริ่มไม่พอใจ ไม่ใช่ว่าไม่พอใจที่ทำเสีย แต่ผมไม่พอใจกับคำพูดคำจา และท่าทางข่มขู่ของเค้ามากกว่า

ผม - "งั้นก็เชิญครับ แต่เปิดจอขึ้นมาใหม่ ต้องเหมือนกับตอนที่ผมเอามาให้คุณซ่อมนะ"
มัน - " ไม่รู้!" ( อารมณ์แบบ ไม่สนใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น )
( ในระหว่างนั้น เมียเจ้าของร้านก็ด่าใส่แซมๆมาหมือนกัน แต่ผมจะเล่าโฟกัสไปที่คำพูดของเจ้าของร้าน
มากกว่า ~ )

ซักพักเมียเจ้าของร้านก็เดินไปตามกลุ่มวัยรุ่นลูกน้อง มาอีก 3 คน รวมกันเป็น 5 คนมาล้อมผมไว้ แล้ว
ถามว่าจะเอายังไง~
1 ใน 3 คนที่มาใหม่ พอจะมีอายุหน่อย ก็เสนอขึ้นมาว่า ทิ้งไว้ได้ไม๊ เดี๋ยวให้เจ้าของเค้าแก้ให้

ผม - "ได้เลยพี่ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมมาเอา แต่ผมขอจ่ายเท่าเดิมคือ 200 นะ เพราะตรงนี้ถือว่าพี่เป็น
ฝ่ายทำพังเอง"
มัน - " ทิ้งไว้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เสร็จ เดี๋ยววางไว้ให้หน้าร้านเลย แต่ใครจะมาหยิบเอาไปไม่รู้เรื่อง
ด้วยนะ"

ดูมันเริ่มพาล ~ เรื่องที่มันน่าจะจบง่ายๆดันไม่ยอมจบ
ผู้ไกล่เกลี่ย - "งั้นเดี๋ยวพี่ รับผิดชอบให้เองแล้วกัน ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็มาที่ร้านผม"
แล้วผู้ไกล่เกลี่ยก็ให้นามบัตรและเบอร์โทรผมไว้ ผมก็ยอมทิ้งจอไว้แต่โดยดี

เรื่องนึกว่าจะจบง่ายๆ อาทิตย์หน้าก็แค่ไปเอาจอกับผู้ไกล่เกลี่ย เท่านั้น น่าจะจบ
แต่มันไม่ใช่~ !

วันเสาร์ที่ 27 ธค. 2551 ผมไปรับจอตามที่นัดกันไว้ ~ ไปถึงหน้าร้านผู้ไกล่
เกลี่ย กลับโบ้ยให้ไปเอาที่ร้านปัญหา~
เมื่อไปถึงร้านปัญหา~ เจ้าของนั่งเล่นคอม เมียเจ้าของนั่งอ่านหนังสือ เมื่อผมเข้าไปถามถึงเรื่องจอ ทั้ง
2 คนทำหน้าไม่สนใจ
ผม - " มารับจอครับ"
เมียมันพูดโดยที่ไม่มองหน้าผม " จอเธอหน่ะ ชั้นโยนให้ร้านอื่นซ่อมไปแล้ว ยังไม่เสร็จ เสร็จเมื่อไหร่ก็
ไม่รู้นะ ถ้าเสร็จจะโทรไปบอกแล้วกัน"
ผม - "เอาไปซ่อมร้านไหนครับ"
เมียมัน - " ร้านแถวนู้นน่ะ แถวๆ สถานีตำรวจ "
มันพูดโดยไม่มองหน้าผม ทำเหมือนไม่สนใจ ผมก็เริ่มอึดอัดกับการกระทำของมัน อย่างนี้หมายความว่า
อย่างไร ถามก็ทำเป็นไม่สนใจ
ตอบปัดๆเลี่ยงๆ เรื่องของเรื่องคือจะไม่คืนจอให้เราใช่ไม๊ ขณะนั้น วัยรุ่นกลุ่มเดิมเริ่มเข้ามาในร้าน
เพื่อกดดันผม แต่ไม่มีผู้ที่ไกล่เกลี่ยเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว~
ผม - "ผมขอเชิญพี่ไปโรงพักกับผมหน่อยได้ไม๊ครับ หรือจะให้ผมเชิญตำรวจมาที่นี่ดี"
เมียมัน - " ไปเลย อยากไปโรงพักใช่ไม๊ ได้เลย เดี๋ยวไปเจอกันที่โรงพัก อย่าหาว่าคุยเลย ไม่อยาก
จะบอก ว่าพี่ชายเจ้าของร้านเนี่ย เค้าเป็นตำรวจ "
แล้วมันกับเมียก็เดินออกไป บอกว่าจะไปรอที่โรงพัก และให้กลุ่มเด็กวัยรุ่นดูร้านให้แทน
ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออกมานั้น ~ พอดีมีคนมาดูๆ Printer ที่ร้านมัน
ผมก็เลยเข้าไปคุยกับเค้านิดหน่อยว่า "อย่าซื้อเลยดีกว่าครับ" ถือเป็นการแก้แค้นเล็กๆน้อยๆ
เท่านั้นแหละครับ กลุ่มเด็กวัยรุ่นก็เข้ามาล้อมผม สีหน้าเหมือนจะเอาเรื่อง ผมรีบเดินหนีออกมา ~

เมื่อมาถึง สภอ.ระยอง ผมไม่เจอกับมัน แต่ผมได้รู้ซึ้งถึงอิทธิพลของมัน (หรือตำรวจขี้เกียจก็ไม่ทราบ)
เชื่อไม๊ครับ~ ร้อยเวร ปัดความรับผิดชอบไปที่ทนายทันที หลังจากฟังเรื่องที่ผมเล่าเสร็จ ทั้งๆที่เรื่องมัน
เกิดจากที่ร้านไม่ยอมคืนจอให้ผม ซึ่งน่าจะเป็นคดียักยอกทรัพย์ก็ได้ แต่ร้อยเวรเบี่ยงให้กลายเป็นคดี ผิด
สัญญาจ้าง ต้องไปจ้างทนาย เสียทั้งเงินทั้งเวลา ร้อยเวรเริ่มเกลี้ยกล่อมให้ผมเห็นว่ามันไม่คุ้มค่า~~
( ถ้าเป็นแบบนี้จริง ร้านซ่อมก็ไม่ต้องคืนของให้ลูกค้าก็ได้ใช่ไม๊ ถามทีเถอะ ถ้าของ 100-200 บาท ก็
คงไม่มีใครจ้างทนายใช่ไม๊)

ผมเดินออกจาก สภอ. อย่างหมดหวัง ไม่รู้จะไปเอาจอคอมคืนจากมันยังไง แต่เหมือนโชคช่วย จาก
ความกร่างของมัน
จู่ๆ มันก็โทรเรียกผมให้ไปเจอครับ~
เมียมัน - "มึงอยากเจอตำรวจนักใช่ไม๊ มาที่ร้านเลย ตำรวจอยู่ที่นี่แล้ว"
ผมสงสัยมาก เพราะผมอยู่ที่สภอ.ตลอด แล้วมันมาเรียกตำรวจตอนไหน เดินกลับเข้าไปถาม ร้อยเวร ก็
บอกว่าไม่ได้ส่งใครไป~ ตำรวจที่ว่านี่ เป็นตำรวจพวกเดียวกะมันแหงแซะ
ผม - "เชิญพี่มา สภอ. ดีกว่าครับ เพราะผมจะได้ไปดูด้วย ว่าจอคอมของผมอยู่ร้านไหน เห็นว่าเอามา
ซ่อมแถวนี้ไม่ใช่หรอครับ"
อารมณ์ตอนนั้นผมไม่อยากมีเรื่องแล้วละครับ ผมอยากรู้ว่าจอคอมผมอยู่ที่ไหน จะได้ไปเอาคืน ไม่สนใจ
แล้วล่ะ ว่าจะซ่อมหรือไม่ซ่อม
เมียมัน - "จอมึงอยู่ที่ร้านกูนี่แหละ มึงจะเอาไม๊ ถ้าเอาก็รีบมาที่ร้านนี่ ไอ้หน้าเหี้-"
ตลอดเวลาที่ผม พูดกับมัน ตั้งแต่แรก ผมจะเรียกเค้าว่า"พี่" แล้วแทนตัวเองว่า "ผม" ตลอด~ ส่วนเค้า
เริ่มออกภาษาพ่อขุนแล้ว

ถึงผมจะสงสัยตำรวจนั่นยังไง ผมก็ต้องเสี่ยงไปครับ เพราะจอผมอยุ่ที่นู่น
( แปลว่ามันโกหก ที่บอกว่าเอามาซ่อมแถวนี้~ ตอนแรก มันกะไม่คืนจอเราจริงๆแหละ)
พอผมไปถึง มันแจ้งตำรวจจับผมทันทีครับ ในข้อหาก่อความวุ่นวาย ทำให้ร้านมันเสียลูกค้า~
(ตอนที่ผมเดินเข้าไปบอกลูกค้าว่าอย่าซื้อของมันนั่นแหละ~)
ผมถึงได้รู้ว่า ทำไมมันถึงบริการเรียกตำรวจให้ผมถึงขนาดนี้~

เป็นโชคของผมที่ตำรวจคนนั้นไม่ได้บ้าตามมัน~ ยังพอเปิดโอกาสให้ผมได้อธิบายบ้าง คุณตำรวจเมื่อได้ฟัง
เรื่องราวแล้ว ก็เข้าใจ ตำรวจคนนั้นก็เลยกลายเป็นเข้ามาไกล่เกลี่ยแทน เรื่องจบตรงที่ ผมพอใจที่ได้
จอกลับคืนมา ส่วนเมียมันก็ด่าผมเหี้- เป็นชุด โดยไม่สนใจซักนิดว่าตำรวจยืนอยู่ด้วย~ กลุ่มวัยรุ่นนักเลงก็
ยืนล้อมผมเหมือนเดิม

ครั้งนี้เป็นโชคดีของผมครับ ที่ได้ของคืนมา ซึ่งถ้าหากมันไม่ตามตำรวจมาเพื่อที่ต้อง
การจะจับผม ผมก็ไม่รู้จะไปเอาจอของผมคืนได้อย่างไร
จึงฝากเตือนทุกท่านที่โบนัสกำลังจะออก และต้องการซื้ออุปกรณ์ Printer หรือ
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงร้านนี้ ตอนซื้อ ท่านอาจจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้า
อุปกรณ์ชิ้นนั้น ไม่ได้คุณภาพหรือ พังขึ้นมา ไม่แน่ว่าเหตุการณ์อย่างนี้อาจเกิดขึ้นได้อีกครั้ง ~
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านข้อความนี้ครับ ท่านจะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยุ่กับดุลยพินิจของท่าน
แต่จะเป็นพระคุณมาก หากท่านจะ Forward บทความนี้ไปให้คนที่ท่านรักที่อยู่ใน จ. ระยอง
" จะได้ไม่มีใครตกเป็นเหยื่อของร้านค้าอันธพาลอีก"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น